คําถาม ที่พบบ่อยในการทําศัลยกรรมกระดูกใบหน้า

เทคนิคการผ่าตัดที่ไทยกับที่เกาหลี มีความแตกต่างกันหรือไม่ ?

  • แตกต่างกันอย่างแน่นอน เพราะขนาดในเมืองไทย หรือแม้แต่ในประเทศเกาหลีเอง ศัลยแพทย์แต่ละคนยังทําผ่าตัดไม่เหมือนกันเลย ดังนั้น ผลการผ่าตัดที่ดีจะต้องมาจากการประเมินก่อนการผ่าตัดอย่างละเอียดถี่ถ้วน และเลือกวิธีการผ่าตัดที่เหมาะสม รวมไปจนถึงขั้นตอนการผ่าตัดที่เป็นระบบและไม่ผิดพลาดด้วย ดังนั้นก่อนจะรับการผ่าตัด จําเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องได้มีการพูด คุย และมีการประเมินจากศัลยแพทย์ “คนที่จะทําการผ่าตัด” ให้เอง จึงจะดีที่สุด โดยเล่าถึงรายละเอียดการผ่าตัด ความเสี่ยงทั่วๆ ไป และความเสี่ยงหรือปัญหาเฉพาะของแต่ละคน

หลังทําผ่าตัดโหนกแก้ม จะมีปัญหาแก้มห้อยย้อยหรือไม่ ?

  • ปัญหาเนื้อแก้มห้อยย้อยต้องประเมินให้ดีก่อนผ่าตัดว่ามีอยู่ก่อนแล้วหรือไม่ ถ้ามีอยู่ก่อน ร่วมกับอายุมาก หรืออ้วน มีไขมันบริเวณใบหน้ามาก ก็จะมีความเสี่ยงได้มากขึ้น แต่ที่สําคัญที่สุดคงเป็นเรื่องเทคนิคการผ่าตัด ที่ต้องพยายามหลีกเลี่ยงภาวะแก้มห้อยย้อยนี้ โดยการเลาะเนื้อเยื่อออกให้แต่พอดี ทิศทางในการเคลื่อนของกระดูกโหนกแก้ม ไม่ต่ำลงมากจนเกินไป และทําการยึดตรึงกระดูกให้แข็งแรงเพื่อไม่ให้ชิ้นกระดูกแยกตัวและตกลงมาด้านล่าง จะทําให้เกิดภาวะเนื้อแก้มห้อยย้อยได้

ผ่าตัดโครงหน้า เจ็บมากไหม ?

  • โดยทั่วไปจะเจ็บไม่มาก คนไข้มักจะพอทนได้ โดยมีการใช้มาตรการ ในการป้องกันการเจ็บปวดหลังผ่าตัดหลายอย่าง ตั้งแต่มีการฉีดยาชาบริเวณ ที่จะทําาการผ่าตัดก่อนที่จะเริ่มการผ่าตัด แม้จะดมยาสลบไปแล้ว มีการให้ ยาแกป้ วดแบบฉดี ในระหวา่ งการทาํา ผา่ ตดั และทาํา การผา่ ตดั ดว้ ยความนมุ่ นวล พยายามให้เนื้อเยื่อมีความบอบช้ําาน้อยที่สุด และหลังผ่าตัดมีการให้ยาระงับปวดที่ดีและเพียงพอ ซึ่งจําาเป็นต้องพักรักษาตัวต่อในโรงพยาบาล อีกทั้งการ ประคบเย็นทันทีหลังผ่าตัด สามารถช่วยลดอาการเจ็บปวดจากการผ่าตัดได้ เป็นอย่างดี

ใช้เวลาในการพักฟื้นนานแค่ไหน ?

  • แนะนําให้ลาพักงานอย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพราะจะเป็นช่วงที่ใบหน้าบวมอยู่มาก แนะนําให้ทําการพันผ้ารัดหน้าไว้แบบตลอดเวลา ซึ่งอาจทําให้ไม่สะดวกในการใช้ชีวิตแบบปกติ แต่หลังจากนั้นหากอาการบวมลดลงเร็ว และลักษณะงานที่ไม่พบปะผู้คนมากนัก ก็สามารถเริ่มกลับไปทํางานได้แล้ว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ส่วนมากจะใช้เวลาในการฟื้นตัวประมาณ 2 สัปดาห์ แต่หากเป็นอาการบวมกว่าจะยุบจนเข้าที่ น่าจะใช้เวลาราวๆ 2-3 เดือน

หากอยู่ระหว่างการจัดฟัน สามารถรับการผ่าตัดปรับโครงหน้าได้หรือไม่ ?

  • หากการผ่าตัดปรับโครงหน้านั้นทำเพื่อปรับกรอบหน้าโดยไม่ได้ทำการเลื่อนขากรรไกร สามารถทําได้โดยไม่ต้องรอจัดฟันเสร็จ เพียงแต่การจัดฟันบางครั้งไม่สามารถบอกได้ว่าสามารถแก้ปัญหาเรื่องฟันได้ทั้งหมดหรือไม่ อาจมีความจําเป็นต้องมีการเลื่อนขากรรไกรในภายหลัง กรณีนี้แนะนําให้รอการจัดฟันใกล้เสร็จก่อน ทั้งนี้อาจปรึกษาทันตแพทย์ที่ทําการจัดฟันดู ว่ากรณีนี้มีแนวโน้มที่จะจัดฟันไม่สําเร็จ แล้วต้องมีการผ่าตัดขากรรไกรหรือไม่ ถ้าไม่มีแนวโน้ม ก็สามารถรับการผ่าตัดปรับโครงหน้าได้เลย

หากต้องการผ่าตัดปรับโครงหน้าพร้อมกับเสริมจมูก สามารถทําได้หรือไม่ ?

  • การผ่าตัดปรับโครงหน้า จะไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับฐานจมูกและขากรรไกร ดังนั้นการทําผ่าตัดจมูกพร้อมกันกับการผ่าตัดปรับโครงหน้า สามารถทําได้เพียงแต่จะทํายากขึ้น เนื่องจากการบวมและระยะเวลาการผ่าตัดที่นานขึ้น รวมถึงวิธีการดมยาสลบที่ต้องไม่ยุ่งเกี่ยวกับบริเวณจมูก ทําให้ต้องมีการเตรียมการเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย ทั้งนี้ขึ้นกับความถนัดของศัลยแพทย์ด้วย

จํากัดอายุสําหรับการผ่าตัดโครงหน้าหรือขากรรไกรหรือไม่ ?

  • ยิ่งอายุมากขึ้น ความเสี่ยงในการผ่าตัดทั่วๆไปจะเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตัดและขยับกระดูกขากรรไกร และสภาพของฟันในช่องปากจะแย่ลงตามอายุที่เพิ่มขึ้น

  • มีคําแนะนําว่า ไม่ควรทําผ่าตัดเลื่อนกระดูกขากรรไกร ในคนที่อายุ เกิน 45 ปี ขึ้นไป แต่ถ้าเป็นเพียงการผ่าตัดปรับโครงหน้าสามารถทําได้ ตราบเท่าที่ความเสี่ยงโดยทั่วไปไม่มากนัก และบริเวณใบหน้าไม่มีความหย่อนคล้อยแบบชัดเจนอยู่ก่อน ก็สามารถรับการผ่าตัดดังกล่าวได้

อาการชาบริเวณคางและริมฝีปากล่าง เกิดได้บ่อยหรือไม่ ? และจะหายเมื่อใด ?

  • อาการชา เกิดจากการบาดเจ็บชอกช้ำของเนื้อเยื่อและเส้นประสาทรับความรู้สึกบริเวณใบหน้า ซึ่งโดยส่วนใหญ่ หากเส้นประสาทได้รับบาดเจ็บ ไม่รุนแรง อาการเหล่านี้จะค่อยๆหายได้เอง อาจใช้เวลาราว 2 สัปดาห์ ถึง 6 เดือนได้ แต่ถ้าบาดเจ็บรุนแรง มีการฉีกขาดของเส้นนประสาท น่าจะมีอาการชาถาวรหรือนานกว่า 12 เดือนได้ ซึ่งในระหว่างผ่าตัด หากพบการขาดของเส้นประสาท ศัลยแพทย์ควรทำการเย็บ ซ่อมแซมเส้นประสาทที่ขาดด้วย เพื่อหวังผลให้มีการคืนกลับของความรู้สึกได้

คนที่มีความผิดปกติของขากรรไกร แต่ไม่อยากเลื่อนขากรรไกร สามารถทําการแก้ ไขแต่โครงหน้าได้หรือไม่ ?

  • เป็นสิ่งที่สามารถทําได้ แต่ต้องได้รับการปรึกษาจากศัลยแพทย์และทันตแพทย์จัดฟัน ว่าอยู่ในกรณีที่การสบฟันไม่ผิดปกติอย่างรุนแรง สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ เช่น อาจมีเพียงการเบี้ยวเอียงเล็กน้อย หรือฟันเกยกันเล็กน้อย สามารถรักษาด้วยการจัดฟันเพียงอย่างเดียว

  • กรณีเหล่านี้ สามารถรับการปรับโครงหน้าให้ได้รูปตรงและสมมาตร โดยการปรับโครงหน้าโดยไม่ต้องเลื่อนขากรรไกรได้ มีข้อพึงระวังคือ การตัดสินใจใช้แผนการรักษานี้ ไม่ควรมีการเปลี่ยนแปลงในภายหลัง เพราะจะทําให้รูปหน้าที่ปรับไว้แล้ว เกิดการผิดรูปอีกได้

แผลเป็นจากการผ่าตัดจะเห็นชัดไหม มีโอกาสเกิดคีลอยด์หรือไม่

  • โดยส่วนมากการผ่าตัดปรับโครงหน้าและขากรรไกร จะพยายามทําผ่าตัดผ่านแผลในช่องปาก ดังนั้นไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องแผลเป็น ส่วนแผล ภายนอกอาจมีได้ เชน่ แผลบริเวณหน้าหูจากการผ่าตัดยุบโหนกแก้ม เป็นต้น ซึ่งมักจะซ่อนไว้หลังแนวไรผม มองเห็นไม่ชัด แต่อย่างไรก็ตาม หากมีปัญหาเรื่องการติดเชื้อหรือแผลอักเสบ อาจกระตุ้นให้เกินแผลเป็นที่ผิดปกติหรือ ที่เรียกว่าคีลอยด์ได้ ดังนั้นควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญให้การดูแลรักษาแต่เนิ่นๆ จะได้ผลดีที่สุด

ThPRS of Thailand